ตอบ คุณ "สันติ"
อันนี้ผมอยู่ไกลไม่ทราบรายละเอียดมากนัก
แต่ก็พอจะรู้ มีรถทะเบียน กท. ป้วนเปี้ยนแถวๆเหมืองง่าอยู่หลายวัน
เอ...ผมนึกออกแล้ว ตอนนั้นป้าทิมเคยเล่านิทาน"บ่าวอกหน้อย"ให้ผมฟังเรื่องนึง แล้วผมจะเล่าต่อ
นิทานเรื่องนี้เริ่มต้นตรงที่...มันคงจะนกรู้ปิดบ้านปิดช่องหลบหนีกันจ้าละหวั่น...
อะอะ เปลี่ยนใจแล้ว ไม่เล่าดีฝ่า
อิอิ...
ตอบ คุณ "เสือก"
ที่ดินไม่กี่ตรว.นั่นรึ อ๋อ...เรื่องมันยาว มันเกี่ยวพันคนหลายคนน่ะ เอาไว้โอกาสหน้าจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียด...
Once upon a time long long ago. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...นิทานเรื่องนี้เริ่มต้น คุณพ่อหูเบารับเป็นเจ้าอยู่กรุงเทพฯ หุ้นส่วนเขียนโพยอยู่ลำพูน...มีคนถูกรางวัลใหญ่ทุกๆงวด
สุดท้ายก็ต้องขายที่ตรงนี้ใช้หนี้...
ตอนโอนกันมีการเล่นกลสลับสับเปลี่ยนตัวด้วยล่ะ
นิทานเรื่องนี้ผมรู้ตอนหลังแต่พ่อผมไม่รู้เรื่องน่ะเนี่ย...
ตอบ คุณ "เสือก"
ผมและน้องๆปิดไว้หลายเรื่องครับ
มีเด็ดกว่านี้อีกน่ะ ใครได้ยินได้ฟังอาจถึงช็อก
ถ้าพ่อผมรู้...ก็คงน่าดูน่าชมไม่จืดแน่ๆ
ผมเองถึงกับมึนตึ้บ คาดไม่ถึงในความระยำ...
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ...
อั้ยเลวสองตัวนั่นมันมุดมุ้งจะเอาหลานทำเมีย!
คุณ "เสือก" ครับ
ผมเป็นพี่คนโต ผมรักน้องๆของผมทุกๆคน
ต่อหน้าผมอาจทำเฉยๆ
แต่ผมก็ติดตามคอยถามไถ่ทุกข์สุขน้องๆทุกๆคน ทั้งถามตรงตัวและถามผ่านคนอื่นๆเสมอๆ
น้องๆของผมทุกๆคนจึงอยู่ในสายตาอยู่ในดวงใจของผมตลอดเวลา
ทั้ง จินตนา ที่เสียชีวิตไปแล้ว-ไตรรัตน์ ที่เป็นอัมพฤกษ์ ผมก็เตือนอยู่เสมอๆชอบกินของมันๆข้าวขาหมูงี้เป็นประจำ
ปรัชญา น้องคนนี้เป็นทหารเสียชีวิตเพราะตกรถสมองบวม เคยบวชที่วัดทุ่งสาธิตหลายพรรษา
มารศรี ตายตั้งแต่ยังเป็นเด็กที่บ้านหวด อ.งาว ตอนนั้นป่วยเป็นไข้นอนซมทั้ง มารศรี-ธีระพงษ์ ตามความเชื่อคนโบราณบ้านเดียวกันถ้าป่วยพร้อมกันคนนึงจะต้องตายคนนึงจะต้องอยู่ แล้วฟ้าดินก็เอามารศรีไป น้องคนนี้หน้าตาสวยน่ารักและคุณพ่อก็รักมากๆด้วย
ธีระพงษ์ น้องคนนี้เมื่อปี 2543 เปลี่ยนทั้งชื่อ-นามสกุล "ชัยวัฒน์ ชาญบดีปรีดา" เสียชีวิตเมื่อ 18 พ.ย.2550
ส่วน นงนุช น้องนุชคนสุดท้องนี่ ทั้งน่ารักและก็น่าชังอยู่ในตัวตน จะว่าเป็นคนโชคดีก็ไม่ใช่โชคร้ายก็ไม่เชิงที่ได้สามีเป็นฝรั่งมังค่า...
แต่น้องเอ๋ย...ถ้ารู้จักลดละปล่อยวาง รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา และมีความคิดเป็นผู้ใหญ่อีกนิดเดียว ก็จะเสริมส่งทั้งตนเองและคุณพ่อคุณแม่ของเราให้เป็นที่รักนับถือของชาวลำพูนไปอีกนานแสนนาน
นงนุช ต่อสู้กับชีวิตตั้งแต่เด็กๆพร้อมๆกับ ธีระพงษ์ ทั้งสองคนนี่เติบโตมาด้วยกัน นงนุชนิสัยออกจะดุๆห้าวๆไปทางนักเลงนิดๆ ตอนเด็กๆถูกใช้ทำงานสารพัดอย่าง ทั้งหิ้วกระเป๋าปิ่นโตซักผ้าขัดถูเช็ดรองเท้าให้ ยอมแม้กระทั่งเสียสละในสุขส่วนตัว
แต่พอโตขึ้นทุกสิ่งทุกอย่างมันกลับตะละปัดกันไปหมด