...และอื่นใด ต้องการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ให้ลูกหลานในตระกูล " อิ น ท ว ง ษ์ " และสาธุชนคนทั่วไป ได้อ่านได้ศึกษาไว้ประดับสติปัญญา พิจารณาดูว่า อะไรควร อะไรไม่ควร อะไรถูก อะไรผิด และความสำนึกรับผิดชอบชั่วดี ในบาปบุญคุณโทษของทุกๆคนทุกๆฝ่าย...


                          

เพลง สัปเหร่อ - คุณประจวบ จำปาทอง คำร้อง/ทำนอง: ไพบูลย์ บุตรขัน - ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมและประชาสัมพันธ์ web ตระกูล"อินทวงษ์"


@ แจกปฏิทิน พ.ศ.2555 ครับ เชิญคลิกโหลดที่นี่...

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554

07 นุชหวังว่าพี่รินทร์จะยอมรับฟังความคิดเห็นนุชบ้างนะคะ...


นงนุชน้องรัก

เรื่องทั้งหมดที่มันบานปลายมาจนถึงวันนี้ ถามตรงๆมันเริ่มต้นมาจากไหน มาจากใครที่เป็นต้นเหตุต้นตอของเรื่อง?????

หรือว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้...วันที่พี่ไปโอนที่ดินแล้วมีใครบางคนมากระแซะขอค่าเบียร์ 500 วันนั้นคนที่ซื้อที่ดินก็โอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีธนาคารของพี่ ตัวพี่เองไม่มีเงินสดติดตัวซักบาทอยู่ที่พี่สะใภ้กำลังทำธุระที่เชียงใหม่โน่น พี่เลยไม่ได้ให้ค่าเบียร์ไป อืม...พี่คิดว่าคงไม่ใช่เพราะเหตุนี้มั้ง

เอ้า...จะเรียงลำดับย้อนให้ฟังอีกครั้ง...

พี่และไตรรัตน์ขายที่ดินให้จำรัสและลุงนพ ทำหนังสือมอบอำนาจให้เขาจดทะเบียนภาระจำยอมฯเช่นเดียวกับธีระพงษ์ที่ขายที่ดินให้ธนาคาร มีป้าทิมคนเดียวนั่นแหละไม่ยอมเซ็นชื่อ

พี่และไตรรัตน์จึงเปลี่ยนเป็น ยกถนนให้เป็นชื่อของเขาไปเลย แต่มันติดขัดที่ป้าทิมไม่ยอมให้โฉนดไปโอน

เริ่มแรกโฉนดอยู่ที่จินตนา วันที่อัยการลำพูนเรียกไปพบ รณชัยขอยืมโฉนดไปถ่ายเอกสาร จินตนาก็ให้ไป

จากนั้น รณชัยก็เอาโฉนดไปเลยไม่ยอมคืนให้ ไปขอคืนก็อ้างสารพัดสารพัน ลงท้ายก็ทำเป็นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟว่าพี่ไปด่าแม่ของรณชัยกับป้าคำ ให้พี่ไปกราบขอโทษขอขมา

แม่ของรณชัยก็เป็นป้าของพี่เหมือนกัน ทำไมพี่จะไปกราบขอโทษขอขมาไม่ได้ล่ะ ก็ป้าทิมเลี้ยงพี่มาตั้งแต่เล็กๆ บุญคุณล้นเหลือ พี่ไปแล้วแต่ไม่พบลูกชายทรงวุฒิบอก ย่าไม่อยู่ไม่รู้ไปไหน แต่ที่แน่ๆคนที่ตลาดบอก รณชัยเป็นคนพาแม่ไปเอง

ตั้งแต่นั้นมาก็อ้างสารพัดสารพัน ขอคืนโฉนดจากแม่ก็บอกว่าอยู่ที่ลูก ขอคืนจากลูกก็บอกว่าอยู่ที่แม่ เป็นอย่างนี้มาตลอด 4-5 ปีเข้าไปแล้ว ก็โฉนดนั่นมันมีผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมตั้ง 6 คน และทุกๆคนก็มีสิทธิเท่าเทียมกัน...

ตั้งแต่แม่บลพ่อเนาว์ตายพี่ก็ได้ป้าคำนี่แหละเป็นที่พึ่ง เพราะพี่เคารพยกให้เป็นทั้งพ่อและแม่ มีสารทุกข์สุขดิบอะไรพี่จะเขียนจดหมายไปปรับทุกข์และเล่าให้ป้าคำฟังเป็นประจำ

ป้าคำท่านเป็นพี่ใหญ่ของตระกูลคงจะเป็นห่วงน้องเรียกไปตักเตือนหลานมันจะถอนหงอกเอา แล้วก็เอาจดหมายฉบับนี้ให้ดู

ในจดหมายที่พี่เขียนไปถึงป้าคำพี่ยอมรับว่าคำพูดมันหนักไปบ้าง พี่จะลอกข้อความบางประโยคมาให้อ่านกันอีกครั้งก็ได้

...ไม่รู้จะโลภไปทำไม ตายไปก็เอาติดตัวไปด้วยไม่ได้ ผมว่าก็คงจะเป็นเปรตเฝ้าที่ดินอยู่แถวๆเหมืองง่า หรือแถวๆโรงพยาบาลลำพูนนั่นแหละ ไม่ได้ไปผุดไปเกิดหรอกครับ...

เรื่องถนนมันเป็นข้อตกลงที่สมบูรณ์แล้วระหว่างพ่อเนาว์กับป้าทิมมาตั้งแต่ก่อนพ่อเนาว์ตายน่ะ เรามันรุ่นลูกก็ควรเคารพและยึดถือตามนั้น

คิดง่ายๆ ก็เพราะมันมีถนนนี่แหละพี่และไตรรัตน์จึงขายที่ดินให้เขาไป ธนาคารซื้อจากธีระพงษ์ก็จดทะเบียนภาระจำยอมฯ ถ้าที่ดินไม่มีถนนเป็นที่ตาบอดใครเขาจะโง่เง่าเต่าตุ่นซื้อไปล่ะ

แล้วอยู่ๆก็เกิดเฮี้ยนขึ้นมา ที่ทางมีถนนเข้าออกได้อยู่ดีๆก็ทำให้มันเป็นที่ตาบอด ปิดถนนไม่ให้เขาใช้ดื้อๆยังงั้นแหละ

แล้วเรื่องมันก็ถึงโรงถึงศาล ก่อเรื่องคนเดียวแต่เดือดร้อนกันทั้งโคตร มันน่า...ไหมล่ะ

...เหมือนคุณ "?" ว่าไว้ ตระกูลนี้คนที่เป็นเสาหลัก จากโลกนี้ไปหมดแล้ว ที่เหลือก็ปักขี้เลน ลูกหลานไม่มีหลักยึดก็เลยวุ่นวายกันใหญ่...

ก็เพราะต่างคนต่างก็ถือทิฐิ และไม่มีผู้ใหญ่ที่เป็นกลางเป็นที่เคารพนับถือเข้ามาไกล่เกลี่ยเข้ามาห้ามปราม เรื่องเล็กๆมันจึงลุกลามบานปลายไปใหญ่โต

ก็เหลือเพียงเรา 1.นิรุทธ์,รณชัยตัวแทนป้าทิม 2.พี่ 3.ไตรรัตน์ และ4.นงนุช สองฝ่ายห้าคนเท่านั้นที่จะต้องลดทิฐิลง หันหน้ามาปรึกษาหารือกัน

เพราะต่างคนต่างก็อยู่ห่างไกลกัน คนหนึ่งอยู่สวิสฯ คนหนึ่งอยู่อเมริกา คนหนึ่งอยู่ลำพูน อีกสองคนอยู่กรุงเทพฯ เมื่อเจอซึ่งหน้ากันไม่ได้ก็เจอกันในเน็ทนี่แหละ ถึงอย่างไรเราก็ทันสมัยพอในเรื่องเทคโนโลยี่นี้กันทุกๆคน

แค่นี้ทำไม่ได้รึ?????

...เห็นด้วยตามที่"อ้ายริน"เสนอมา

ได้รับประโยชน์ทั่วถึงกันทุกฝ่าย

นงนุชได้ที่คืนไม่ต้องมีใครผ่านและมีทางเข้า-ออก 3 ทาง

ป้าทิมเสียที่นิดหน่อยแต่ก็ได้ที่คืนทั้งหมดไม่ต้องตกอยู่ในบังคับภาระจำยอมอีกต่อไป

และเหนืออื่นใด ตระกูล"อินทวงษ์"ไม่ต้องโดนข้อครหานินทาใดๆ

"ไตรรัตน์"...

...เรื่องถนนตามที่พี่ส่งมาให้ดูนั้นนุชดูแล้วคิดว่าก็ดีนะคะ

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นพี่รินทร์และพี่น้อยน่าจะลองไปคุยกับพี่รณชัยดูว่า พี่เขาคิดเห็นเป็นอย่างไร

สำหรับนุชนุชช่วยพี่ได้ก็แค่เสริมเท่านั้นค่ะ เพราะที่ดินหลักหลักเป็นของพี่รณชัยและคู่กรณีก็พี่รินทร์กับพี่น้อย

สำหรับนุช นุชอยากให้พี่ลดทิฐิลงมาและคุยกับพี่รณดีดี นุชเชื่อว่าพี่รณเป็นคนที่มีเหตุและผลถ้าพี่คุยกับพี่รณดีดีนะคะ เพราะที่ผ่านมาใช้อารมณ์และไม่ยอมที่จะถามพี่รณเขา เรื่องก็เลยเป็นแบบนี้

นุชหวังว่าพี่รินทร์จะยอมรับฟังความคิดเห็นนุชบ้างนะคะ...

เอาล่ะ...พี่เชื่อนุช อายุเราก็มากๆด้วยกันแล้วนะ หันหน้ามาพูดกันดีๆเถอะ

โดยเฉพาะรณชัย มีเหตุมีผลผลอะไรก็ว่ามาพูดออกมาให้ชัดถ้อยชัดคำ

จะโกรธอะไรกันนักหนา เอาน่า..."ดิไซ้"รณชัย...พี่ๆน้องๆกันหยอกล้อเล่นนิดๆหน่อยๆ อย่าถือสาเลย ไม่มองไม่นับถือกันก็ไม่ว่า แต่ ณ ที่นี้ อ้ายขอโทษ...

ขอร้องล่ะ ให้เรื่องมันจบๆกันไปด้วยดีเถอะ